วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556

เรื่องเหล้า (สาเก)

SAKE (สาเก) 




สาเก (Sake) เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ของประเทศญี่ปุ่น ทำจากข้าวเหมือนกับการทำเบียร แต่ไม่ใช่เบียรเพราะไม่มีสี และไม่มีแก๊สบรรจุอยู่  ไม่จัดอยู่ในกลุ่มไวน์เพราะมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่า และก็ไม่ใช่สุรากลั่นเช่นกัน แต่เนื่องจากดูคล้ายไวน์หลายคนจึงเรียกว่า Japanese rice Wine

สาเกเป็นเครื่องดื่มประจำชาติของชาวญี่ปุ่นมานานหลายศตวรรษ ไม่ทราบแน่ชัดว่ามีต้นกำเนิดจากไหน หรือเมื่อไร แต่สันนิษฐานว่าชาวญี่ปุ่นรับเอาวิธีการหมักสุราด้วยข้าวมอลต์จากประเทศจีนเมื่อหลายพันปีมาแล้ว


ในยุคอาสึกะ (飛鳥時代 - Asuka jidai / ค.ศ.592 - 710) สาเกที่หมักจากข้าว, น้ำ และมอลต์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมมาก ในสมัยเฮอัน (平安時代 - Heian jidai / ค.ศ.794-1185) สาเกเริ่มถูกใช้ประกอบในพิธีทางศาสนา และผู้คนก็เริ่มดื่มสาเกกันบ่อยขึ้น ในช่วงแรกโรงผลิตเหล้าอยู่ในการดูแลของรัฐบาลเป็นเวลานาน แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ตามวัดและศาลเจ้าก็เริ่มหมักเหล้ากันเอง และก็กลายเป็นสถานที่หลักในการหมักสาเกเป็นระยะเวลานานถึง 500 ปี







คริสต์ศตวรรษที่ 16 ชาวญี่ปุ่นในเกาะคิวชูรับเอาเทคนิคการกลั่นเหล้ามาจากริวกิว (โอกินาว่าในปัจจุบัน) เหล้าโชจูที่ชื่อ อิโมะสาเกเริ่มถูกส่งมาขายยังเกียวโต ที่ซึ่งปกตินำเข้าสุราและไวน์ต่างๆ จากประเทศจีน และในคริสต์ศตวรรษที่ 18 สาเกก็กลายเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมสูงมากในญี่ปุ่น




การทำสาเกจะมีกรรมวิธีอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ โดยเริ่มจากการทำความสะอาดข้าวด้วยน้ำและแช่ไว้นานประมาณ 12 ชั่วโมง  แล้วจึงนำไปนึ่งข้าว ที่นึ่งแล้วจะนำไปผสมคลุกเคล้ากับยีสต์ ชนิดหนึ่งซึ่งจะผลิตเอนไซม์ที่เปลี่ยนแป้งจากข้าวเป็นน้ำตาล  โดยใช้เวลานาน 35  ชั่วโมง   เพื่อทำให้มีเอนไซม์มากขึ้น เรียกว่าโคจิ ( Koji ) เพื่อให้เกิดการหมักเพิ่มขึ้นผสมกับยีสต์เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ    โดยกินน้ำตาลจนเติบโตเต็มที่ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์และเรียกว่า moto  ที่ยีสต์เจริญเติบโตเต็มที่แล้ว  จึงเติมน้ำและข้าวนึ่งใหม่ๆลงไปเพื่อให้เกิดการเริ่มต้นประมาณ  3 สัปดาห์ เมื่อการหมักเสร็จสิ้นแล้ว  ของเหลวที่ได้คือ สาเกจะถูกกรองออกมาทิ้งไว้ให้เย็น  แล้วนำเก็บไว้ในถัง เก็บบ่มระยะเวลาสั้นๆสุดท้ายจึงนำไปฆ่าเชื้อด้วยวิธีการพาสเจอไรซ์ก่อนการบรรจุขวด  หรือ ถังสาเกจะมีระดับคุณภาพธรรมดา  และคุณภาพพิเศษต่างกัน  




สาเกมีแอลกอฮอล์สูงมากหากเทียบกับเครื่องดื่มที่ทำจากการหมักเหมือนๆกัน คือมีแอลกอฮอล์14-16 ดีกรีมีรสหวานเล็กน้อยเมื่อเริ่มดื่ม ปกติสาเกจะนิยมดื่มโดยอุ่นให้ร้อนปานกลาง เพื่อให้กลิ่นจางลงการอุ่นจะนำขวดใส่สาเกลงแช่ในอ่างน้ำร้อนประมาณ 37องศา ถึง 38องศา  การเสิร์ฟแบบญี่ปุ่นจะแบ่งใส่ในขวดเซรามิคเล็กๆที่เรียกว่า  Tokkuri  แล้วรินใส่ถ้วยเล็กๆ ที่เรียกว่า Sakazuki ขนาดถ้วยประมาณ 1 ออนซ์ และดื่มจากถ้วยเล็กๆนี้

สาเกอาจดื่มแบบแช่เย็น  เย็นเล็กน้อยใส่น้ำแข็งหรือผสมค็อกเทลก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น